วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2558

พลิกสูตรน้ำเต้าหู้ ... สู่อาชีพ



น้ำเต้าหู้ถือเป็นเครื่องดื่มอีกชนิดหนึ่งที่คนไทยรู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เนื่องจากสามารถหาซื้อได้ง่าย และมีมากมายหลายร้านให้เลือกซื้อ ด้วยเหตุนี้เองทำให้ผู้ค้าน้ำเต้าหู้หลายรายเริ่มมองหาสูตรใหม่ๆ เพื่อชูจุดขายให้กับร้านของตน แม้ว่าการทำน้ำเต้าหู้ให้มีความแตกต่างนั้นจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่วันนี้ คุณสุภาวดี บุญยืน หรือ คุณจิ๊บ เจ้าของร้าน น้ำเต้าหู้ ตลาดนัดเซียร์รังสิต เป็นอีกคนหนึ่งที่สามารถพัฒนาสูตรน้ำเต้าหู้จนสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน


ก่อนหน้านี้เคยค้าขายมาหลายอย่าง แต่รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย เลยมาลองคิดทำน้ำเต้าหู้ขายในละแวกบ้าน เพราะเห็นว่ามีหน่วยงาน บริษัท และห้างสรรพสินค้าต่างๆ ที่มีคนทำงานมากพอสมควร และชาวบ้านแถวนี้ส่วนใหญ่ก็นิยมดื่มน้ำเต้าหู้กันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่ไม่อยากให้ซ้ำกับน้ำเต้าหู้แบบที่ทำขายกันทั่วไป ก็เลยหาวิธีดัดแปลงสูตรเพื่อให้เกิดความแตกต่าง คิดไปคิดมาก็มาสะดุดกับใบเตย เพราะคิดว่าถ้าใส่ใบเตยในน้ำเต้าหู้จะช่วยให้น้ำเต้าหู้กลิ่นหอม และมีสีเขียวแบบธรรมชาติ” 

สำหรับการทำน้ำเต้าหู้ใบเตย จะมีขั้นตอนการผลิตที่มากกว่าการทำน้ำเต้าหู้ทั่วไป เพราะจะต้องมีขั้นตอนในการเตรียมน้ำใบเตยด้วย

ก่อนจะนำมาคั้นน้ำต้องล้างให้สะอาด นำมาปั่นและกรอง วิธีทำจะยุ่งยากกว่าการทำน้ำเต้าหู้ปกติ แต่ก็ถือว่าคุ้มกับกลิ่นหอม น่ารับประทาน ตอนที่ทำน้ำเต้าหู้ใบเตยมาขายแรกๆ ลูกค้าก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมน้ำเต้าหู้มีสีเขียวอ่อนๆ และหอมมาก

นอกจากความหอมน่ารับประทานแล้ว น้ำเต้าหู้ใบเตยยังเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบดื่มน้ำเต้าหู้เพราะไม่ชอบกลิ่นถั่วเหลืองอีกด้วย เนื่องจากเมื่อใส่ใบเตยลงไปก็จะทำให้สามารถดื่มได้ง่ายขึ้น เพราะกลิ่นหอมของใบเตยจะช่วยดับกลิ่นถั่วเหลืองที่ผู้บริโภคไม่ชอบ และด้วยรสชาติที่หวานมัน กลมกล่อม หอมน่ารับประทานนี้เอง จึงทำให้น้ำเต้าหู้ใบเตยกลายเป็นจุดขายของทางร้าน

สำหรับเคล็ดลับความอร่อยของ น้ำเต้าหู้ใบเตยคุณจิ๊บบอกว่าอยู่ที่ขั้นตอนการทำ โดยเริ่มจากนำเมล็ดถั่วเหลืองไปแช่น้ำสะอาด 3 ชั่วโมง แล้วคัดถั่วเมล็ดเสียออก 

เวลาคัดให้สังเกตดูจากสีถั่ว ถั่วที่เสียจะมีเมล็ดสีน้ำตาลและนิ่ม พอคัดเสร็จแล้วก็เอาถั่วเหลืองเมล็ดดีไปล้างน้ำให้สะอาด 3-4 ครั้ง  ที่สำคัญเลยก็คือไม่ควรแช่ถั่วเหลืองเกิน 3 ชั่วโมง เพราะถ้าแช่เกินจากนี้จะทำให้เมล็ดถั่วคืนตัว เวลาเอาไปบดจะทำให้น้ำเต้าหู้เสียรูป และมีกากปน รสชาติจะไม่อร่อย


หลังจากที่นำถั่วเหลืองไปแช่น้ำ และล้างทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือขั้นตอนของการบด ซึ่งคุณจิ๊บได้เผยเคล็ดลับในขั้นตอนนี้ให้เราได้ฟังกันด้วย

พอแช่ถั่วครบตามเวลาที่กำหนดก็เอาถั่วที่ล้างสะอาดแล้วไปบดในเครื่องบด หรือเครื่องโม่  ซึ่งในการบดเราจะต้องเปิดน้ำหล่อเลี้ยงตลอดเวลา  จากนั้นนำน้ำถั่วเหลืองที่ได้ไปกรองด้วยผ้าขาวบาง 3 ครั้ง และนำไปต้มโดยใช้ไฟแรง พอเริ่มเดือดใส่น้ำใบเตยลงไป พอน้ำถั่วเหลืองเดือด เคี่ยวต่อไป โดยลดมาใช้ไฟปานกลาง ระหว่างนั้นให้คนไปเรื่อย ๆ อีก 5 นาที แล้วค่อยยกลงจากเตา เติมเกลือป่นครึ่งช้อนชา และน้ำตาล
 
นอกจากขั้นตอนการทำน้ำเต้าหู้ที่พิถีพิถันแล้ว เคล็ดลับความอร่อยอีกอย่างหนึ่งของ น้ำเต้าหู้ใบเตยร้านนี้ก็คือการใช้ของสดใหม่ สะอาด ทำขายวันต่อวัน ทำให้น้ำเต้าหู้ที่ลูกค้าซื้อไปแล้วสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานเป็นสัปดาห์โดยที่รสชาติยังคงเดิม 

สำหรับใครที่อยากลองชิมน้ำเต้าหู้ใบเตยสูตรเฉพาะของคุณจิ๊บ สามารถแวะมาอุดหนุนกันได้ทุกวันที่ ร้านน้ำเต้าหู้ ตลาดนัดเซียร์รังสิตตั้งแต่เวลา 16.00 – 20.30 น. ส่วนใครอยากจะลองนำสูตรไปฝึกทำขายบ้างก็อย่ารอช้า เพราะน้ำเต้าหู้ธรรมดาๆ อาจสร้างรายได้ให้คุณมากมายอย่างคาดไม่ถึง 


ขอบคุณข้อมูลจาก คุณสุภาวดี บุญยืน เจ้าของร้านน้ำเต้าหู้ ตลาดนัดเซียร์รังสิต
ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.foodietaste.com/recipe_detail.asp?id=3401

วันอังคารที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2558

รู้ไว้ก่อนไปร้าน ... กาแฟแต่ละอย่างแตกต่างกันอย่างไร



            ‘กาแฟ นับเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตอีกชนิดหนึ่งที่มีผู้นิยมดื่มกันมากมายทั่วโลก และมีหลากหลายรสชาติให้เลือกดื่ม แต่ทราบไหมคะว่ากาแฟแต่ละประเภทนั้นมีลักษณะอย่างไร มีรสชาติแบบไหน และมีส่วนผสมอะไรบ้าง วันนี้เราลองไปดูกันค่ะ ว่ากาแฟแต่ละประเภทนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร

เอสเพรสโซ่ (Espresso)




            คือ กาแฟที่มีรสชาติเข้มข้นที่สุดในบรรดากาแฟทั้งหมด มีวิธีการชงโดยใช้แรงอัดไอน้ำหรือ     น้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟคั่วที่บดละเอียด  ด้วยรสชาติที่เข้มข้นและหนักแน่นอันเป็นเอกลักษณ์นี้เอง      ทำให้คอกาแฟนิยมดื่มเอสเพรสโซ่โดยไม่ปรุงด้วยน้ำตาลหรือนม และมักจะเสิร์ฟเป็นชอต เพื่อให้ปริมาณไม่มากจนเกินไป สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟเอสเพรสโซ่ ควรดื่มตอนชงเสร็จใหม่ๆ         เนื่องจากเอสเพรสโซ่มีความไวสูงในการทำปฏิกิริยากับออกซิเจน หากทิ้งไว้นานอาจทำให้เสียรสชาติได้

คาปูชิโน (Cappuccino)
 

            เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มประเภทกาแฟที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี มีส่วนประกอบหลักคือ เอสเพรสโซ่ และนม ซึ่งการชงคาปูชิโนโดยส่วนใหญ่มักมีอัตราส่วนของเอสเพรสโซ่ 1/3 ส่วน ผสมกับนมสตีม  1/3 ส่วน และนมตีเป็นโฟมละเอียดลอยอยู่ด้านบน นอกจากนี้ยังมีการโรยหน้าด้วยผงโกโก้หรือผงซินนามอนเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความสวยงามอีกด้วย

ลาเต้ (Latte)

 
            เป็นกาแฟผสมนมที่มีรสและกลิ่นกาแฟน้อยที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟที่มีรสชาติหวานมัน โดยมีส่วนผสมหลัก คือ เอสเพรสโซ่ 1/3 ส่วน นมร้อน 2/3 ส่วน และปิดหน้าด้วยฟองนม ซึ่งในการชงกาแฟลาเต้ บาริสต้า จะใช้วิธีขยับข้อมือเล็กน้อยขณะที่รินนมและฟองนมลงบนกาแฟ ทำให้เกิดลวดลายต่างๆ เรียกว่า 'ลาเต้อาร์ต' หรือ 'ศิลปะฟองนมในถ้วยกาแฟ' นั่นเอง

มอคค่า (Cafe Mocha)


            เป็นกาแฟที่มีลักษณะคล้ายกับกาแฟลาเต้ คือ มีส่วนผสมของเอสเพรสโซ่ 1/3 ส่วน และ           นมร้อน 2/3 ส่วน แต่แตกต่างกันที่มอคค่าจะมีส่วนผสมของช็อคโกแลตด้วย โดยมักจะใส่ในรูปของ    น้ำเชื่อมช็อคโกแลต และมักมีวิปครีมปิดหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟที่มีความหอม หวาน และมันของช็อคโกแลตที่ผสมอยู่ด้วย

 
อเมริกาโน หรือ คาเฟ่ อเมริกาโน (Café Americano)


            คือ กาแฟชนิดหนึ่งที่ปรับปรุงสูตรมาจากกาแฟเอสเพรสโซ่  มีวิธีการชงโดยเติมน้ำร้อนผสม       ลงไป  ซึ่งการเจือจางเอสเพรสโซ่ที่เป็นกาแฟเข้มข้นด้วยน้ำร้อนนี้ ทำให้อเมริกาโนมีรสชาติแก่พอๆ     กับกาแฟธรรมดา แต่มีกลิ่นและรสชาติที่เข้มข้นกว่า คอกาแฟส่วนใหญ่นิยมดื่มอเมริกาโนโดยไม่ปรุงด้วยนมหรือน้ำตาล เพื่อให้ได้รสชาติของอเมริกาโนแท้ๆ นั่นเอง 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับกาแฟแต่ละประเภทที่นำมาฝากในวันนี้  สำหรับใครที่เคยเกิดอาการสับสนทุกครั้งเวลาที่ต้องสั่งกาแฟ เมื่อได้ทราบถึงความแตกต่างของกาแฟแต่ละประเภทอย่างนี้แล้ว เชื่อว่าการสั่งกาแฟในครั้งต่อไป คุณจะได้รับกาแฟที่มีรสชาติถูกอกถูกใจอย่างแน่นอน





ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.publicpostonline.com/main/content.php?page=sub&category=21&id=429
http://fusionpeach.tumblr.com/post/5736800162

http://coffeedaily.exteen.com/20100429/entry-2

http://men.mthai.com/men-around/35808.html
http://www.meepanda.com/coffee-difference/
http://blog.janthai.com/ความรู้ทั่วไป-กาแฟ-1152.html
http://coffee4home.blogspot.com/2011/12/types-of-coffee-drinks.html